ตัววิ่ง

Welcome To My Blog

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

                            ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง

                

                 “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทาง การดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำ แนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลง

               

 มีหลักพิจารณา ดังนี้

                กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็นโดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยและวิกฤติ เพื่อความมั่นคงและความยั่งยืนของการพัฒนา

                

                คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการปฏิบัติบนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน

                

                คำนิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะพร้อม ๆ กัน ดังนี้


1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกิดไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ


2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ


3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล

กำเนิดอาเซียน 


        อาซียน หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of South East Asian Nations หรือ ASEAN) ก่อตั้งขึ้นโดยปฏิญญากรุงเทพ (The Bangkok Declaration) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2510 โดยสมาชิกผู้ก่อตั้งมี 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ซึ่งผู้แทนทั้ง  5 ประเทศ ประกอบด้วย นายอาดัม  มาลิก (รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย) ตุน อับดุล ราชัก บิน ฮุสเซน (รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติมาเลเซีย) นายนาซิโซ  รามอส (รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์)  นายเอส  ราชารัตนัม (รัฐมนตรีต่างประเทศสิงค์โปร์ และพันเอก (พิเศษ) ถนัด คอมันตร์ (รัฐมนตรีต่างประเทศไทย) ในเวลาต่อมาได้มีประเทศต่างๆ เข้าเป็นสมาชิกเพิ่มเติม ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม (เป็นสมาชิกเมื่อ 8 ม.ค. 2527) เวียดนาม (วันที่ 28 ก.ค. 2538)  ลาว พม่า (วันที่ 23 ก.ค. 2540) และ กัมพูชา (วันที่ 30 เม.ย. 2542) ตามลำดับ จากการรับกัมพูชาเข้าเป็นสมาชิก ทำให้อาเซียนมีสมาชิกครบ 10 ประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้


 

 ตลาดน้ำอัมพวา (ตลาดน้ำยามเย็น)


          ในอดีตเมืองอัมพวาถือว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม มีตลาดน้ำขนาดใหญ่และชุมชนริมน้ำที่เป็นศูนย์กลางด้านพาณิชยกรรม แต่ผลกระทบของการพัฒนาการคมนาคมทางบก ทำให้ความเป็นศูนย์กลางฯ ของอัมพวาต้องสูญเสียไป ตลาดน้ำค่อยๆลดความสำคัญและสูญหายไปในที่สุด ทิ้งไว้แต่ร่องรอยของความเจริญในอดีตซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นชัดเจนในทุกวันนี้




         และเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2547 ทางเทศบาลตำบลอัมพวา โดยความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในท้องถิ่น ได้ฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่ออนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ ซึ่งในปัจจุบันจะหาดูตลาดน้ำแท้ๆ ได้ยาก ให้สืบทอดตลอดไป โดยใช้ชื่อว่า "ตลาดน้ำยามเย็น" ซึ่งในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจะรู้จักในนามของ ตลาดน้ำอัมพวา

         
              ตลาดน้ำอัมพวาจะมีทุกวันศุกร วันเสาร์ วันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ที่หยุดต่อเนื่อง แต่เวลา 13.00-22.00 น. ตลาดน้ำโดยทั่วไปมักจะจัดขึ้นในเวลากลางวัน แต่ตลาดน้ำยามเย็น ที่อัมพวาแห่งนี้ จะจัดขึ้นในช่วงงเวลาเย็นเรื่อยไปจนถึงเวลาพลบค่ำ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดในลักษณะเช่นนี้ ในตอนเย็นชาวบ้านจะเริ่มทยอยพายเรือนำสินค้าหลากหลายนานาชนิด อาทิ อาหาร ผลไม้ พืชผัก ขนม ของกินของใช้ มาขายให้กับนักท่องเที่ยว หรือคนในท้องถิ่นที่สัญจรไปมาที่ตลาดอัมพวา ทำให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติของชีวิตของชุมชนริมน้ำ ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถที่จะหาซื้ออาหารมานั่งรับประทาน บริเวณริมคลองอัมพวาติดกับตลาดน้ำ ซึ่งได้มีการจัดสถานที่ไว้ ทำให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แท็บเล็ต iPad 3

                                            
                                           แท็บเล็ต iPad 3 4G + Wi-Fi

  

         บริษัท Apple ได้ทำการเปิดตัว iPad 3 ที่มาพร้อมกับจอแสดงผลความละเอียด 2,048 ต่อ 1,536 พิกเซล หรือ 3.1 ล้านพิกเซล ขนาดจอกว้าง 9.7 นิ้ว จอแสดงผลแบบ Retina พร้อมกับความสามารถในการสั่งงานด้วยเสียงและการเชื่อมต่อ LTE 4G
 
      Phil Schiller รองประธานอาวุโสแผนกผลิตภัณฑ์และการตลาดทั่วโลก กล่าวว่า หน้าจอของ iPad 3 ตัวใหม่ มีพิกเซลมากกว่าโทรทัศน์บางเครื่องซะอีก โดย iPad 3 มีพิกเซลถึง 264 พิกเซลต่อตารางนิ้ว ตัวพิกเซลนี้ไม่สามารถแสดงความโดดเด่นกับสายตาของมนุษย์ได้ที่ระยะห่าง 15 นิ้ว และ iPad 3 มาพร้อมกับกล้อง 5 ล้านพิกเซล อีกทั้งยังได้พัฒนาอื่น ๆ อีกมากมาย

      iPad 3 นี้ยังมาพร้อมกับการสั่งงานด้วยเสียง ผู้ใช้สามารถป้อนข้อความได้ด้วยเสียงโดยไม่ต้องพิมพ์
 
     คุณสมบัติของ iPad 3
- จอแสดงผล Retina ความละเอียดสูง
- ชิป A5X ตัวใหม่ พร้อมกับการประมวลผลกราฟิก quad-core
- กล้อง iSight 5 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยเลนส์คุณภาพสูงถ่ายวีดีโอได้ 1080 พิกเซล
- เชื่อมต่อด้วย 4G LTE ที่สามารถเชื่อมต่อกับ wireless ได้เร็วกว่า
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ 10 ชั่วโมง (ใช้งานกับ Wi-Fi ได้ 10 ชั่วโมงและใช้งานกับ 4G LTE
    ได้  9 ชั่วโมง)

ราคา

iPad 3 16GB ราคา $499 (US) (ประมาณ 13,972 บาท)

iPad 3 32GB ราคา $599 (US) (ประมาณ 16,772 บาท)

iPad 3 64GB ราคา $699 (US) (ประมาณ 19,572 บาท)

iPad Wi-Fi + 4G สำหรับทั้งเวอร์ชั่น AT&T และ Verizon 16GB ราคา $629 (ประมาณ 17,612 บาท)

iPad Wi-Fi + 4G สำหรับทั้งเวอร์ชั่น AT&T และ Verizon 32GB ราคา $729 (ประมาณ 20,412 บาท)

iPad Wi-Fi + 4G สำหรับทั้งเวอร์ชั่น AT&T และ Verizon 64GB ราคา $829 (ประมาณ 23,212 บาท)

ประวัติส่วนตัว

ด.ช.ศักรินทร์ ศรชัย   ชื่อเล่น โอ๊ต
เกิดวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2541  อายุ 14 ปี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนถาวรานุกูล
ที่อยู่   63 ม. 4  ต. แพรกหนามแดง อ. อัมพวา จ. สมุทรสงคราม
เบอร์โทรศัพท์ 087 - 7558031
e-mail  lionboy50@gmail.com
สิ่งที่ชอบ  เกมส์ อ่านหนังสือ
อาชีพที่ใฝ่ขวัญ วิศวะคอมพิวเตอร์
สีที่ชอบ สีดำ
งานอดิเรก สะสมการ์ด
กีฬาที่ชอบ แบดมินตัน